Why-Why Analysis
คือการวิเคราะห์ที่จะเริ่มตั้งคำถามว่า “ทำไม” ไปจนกว่าจะสามารถหาสาเหตุที่แท้จริงได้ โดยนิยมสร้างผังเพื่อทำให้เห็นโรงสร้างได้ถึง 2 แบบ นั่นก็คือ แบบก้างปลาและแบบต้นไม้ ซึ่งทั้งสองรูปแบบผังนี้จะถือว่าเป็นการตอบคำถามที่ได้เริ่มตั้งขึ้นมา ซึ่งการวิเคราะห์ดังกล่าวนี้เป็นการวิเคราะห์ที่จะใช้วิธีการมองเห็น “ผลกระทบ” และ “สาเหตุ” ในบางประเด็น แต่ยังไม่ด่วนสรุปทันทีว่าเกิดจากสาเหตุใด โดยจะพยายามข้อเท็จจริงที่ถูกต้องไปเรื่อย ๆ เพื่อค้นหาถึงสาเหตุที่แท้จริงต่อไป และการวิเคราะห์ดังกล่าวนี้มีประโยชน์ตรงที่สามารถทำให้เราเข้าใจได้อย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ โดยไม่มีตกหล่นเลยแม้แต่ข้อเดียว
ซึ่งการที่เราจะใช้ Why – Why Analysis ให้เกิดประสิทธิภาพนั้น จำเป็นที่จะต้องประกอบไปด้วยเทคนิคและข้อกำหนด 10 อย่างที่ต้องพิจารณาดังนี้
1. หาความชัดเจนกับปัญหาและไม่เป็นนามธรรม
2. การวิเคราะห์จำเป็นจะต้องดูพฤติกรรมที่เกิดขึ้นจริง
3. ต้องระวังต้นกำเนิดสาเหตุที่ไม่สมเหตุสมผล
4. ต้องพิจารณาปัญหาให้รอบด้าน
5. หลีกเลี่ยงสาเหตุจากสภาพจิตใจ
6. ต้นสาเหตุต้องนำมากำหนดเป็นมาตรการป้องกันปัญหาเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย
7. ไม่นิยมนำมาตรการแก้ปัญหามากำหนดเป็นต้นกำเนิดสาเหตุ
8. ต้องตรวจสอบความสมบูรณ์ด้วย MECE Technique
9. พิจารณาว่าสาเหตุใดควรเป็นต้นกำเนิดสาเหตุสุดท้าย
นั่นจึงเท่ากับว่า Why-Why Analysis เป็นการวิเคราะห์ที่หาสาเหตุจากจุดเริ่มต้นของปัญหา ซึ่งถ้าหากเราสามารถค้นหาต้นกำเนิดของปัญหานั้นเจอ และทำการกำจัดมัน ปัญหานั้นก็จะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไปนั่นเอง แต่ถ้าหากปัญหาเก่ายังไม่สามารถคลี่คลายได้ แสดงว่าการวิเคราะห์ของเราอาจจะผิดพลาด จึงจำเป็นที่จะต้องวิเคราะห์ใหม่นั่นเอง
นอกจากนี้ สิ่งที่เราจำเป็นที่จะต้องศึกษาในเวลาต่อมาก็คือ แนวคิดของ Why – Why Analysis ซึ่งก็คือเป็นสิ่งที่เป็นการวิเคราะห์อย่างแท้จรอง หาใช่การนั่งเทียนหรือคาดเดา โดยหลักการวิเคราะห์จากคำถามว่า “ทำไม” ซึ่งสามารถแบ่งลักษณะของการวิเคราะห์ได้ 2 ประเภทคือ
1. มองจากสภาพที่ควรจะเป็น ซึ่งสามารถใช้ได้ในกรณีที่สามารถมองเห็นปัญหาได้โดยทันทีหรือสามารถพิสูจน์ปัญหาในสถานที่หรือสถานการณ์จริง ๆ ได้เลย
2. มองจากหลักเกณฑ์หรือทฤษฏี ซึ่งจะใช้ในกรณีที่สถานการณ์หรือสถานที่เกิดปัญหาที่ค่อนข้างเข้าใจยาก ซึ่งจะทำให้การมองจากหลักเกณฑ์หรือทฤษฏี เป็นสิ่งที่เหมาะสมกว่านั่นเอง
ดังนั้นแล้ว ทักษะการวิเคราะห์ปัญหาด้วย Why–Why Analysis จึงได้กลายเป็นเป็นพื้นฐานสำคัญในการที่จะช่วยแก้ปัญหากระบวนการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างการทำงานของเราได้ โดยการพัฒนาทักษะดังกล่าวนี้ ยังจะส่งผลดีในการแก้ปัญหา โดยจะช่วยทำให้มันเป็นไปอย่างมีระบบ และเป็นขั้นเป็นตอน มีเหตุผลเชิงวิทยาศาสตร์ นั่นจึงทำให้ Why-Why Analysia ได้กลายเป็น “การป้องกันการแก้ปัญหาแบบไม่สมเหตุผล” ที่เกิดจากการวิเคราะห์ของตัวหรือกลุ่มผู้คิดนั่นเอง
นอกจากนี้การที่เราจะใช้การวิเคราะห์ Why-Why Analysis ยังสามารถมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อได้กับหลักการ 5 Gen อันประกอบไปด้วย Genba , Genbutsu , Genjitsu , Genri และ Gensoku โดยเฉพาะในหลักการ 3 หัวข้อแรกที่จะให้ความสำคัญกับการดำเนินการค้นหาปัญหาเพื่อที่จะนำมันมาแก้ไขและปรับปรุงต่อไปโดยในหลักการ 3 ข้อแรกที่มีความสำคัญนั้นก็คือ
Genba คือ สถานที่จริง หรือก็คือ การลงพื้นที่เพื่อค้นหาปัญหาจริง ๆ
Genbutsu คือ สิ่งที่เป็นตัวปัญหาจริง หมายถึง การสังเกตหรือจับต้องสิ่งนั้น ๆ ที่กำลังจะถูกผลิตหรือกำลังถูกตรวจสอบนั่นเอง
Genjitsu คือ สถานการณ์จริง หมายถึง เหตุการณ์ที่เกิดปัญหาจริง นั่นเอง
Genri คือ ทฤษฎีที่ใช้ได้จริง หมายถึง หลักการที่ใช้ในการทำงาน
Gensoku คือ เงื่อนไขประกอบที่เกี่ยวข้องจริง
ซึ่งสาเหตุที่ควรจะนำหลักการ 5 Gen ใช้ด้วยนั้น ก็เป็นเพราะว่าการวิเคราะห์แบบ Why-Why Analysis นั้นถึงแม้จะมีการวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นก็จริง แต่ยังขาดการลงพื้นที่จริงเพื่อตรวจสอบปัญหานั่นเอง นั่นจึงทำให้ในหลาย ๆ ปัญหาจึงอาจจะไม่สามารถคลี่คลายได้ชะงักนัก ดังนั้นการนำหลักการ 5 Gen มาใช้จะช่วยทำให้เราสามารถค้นหาปัญหาที่เรากำลังตามหาได้อย่างแท้จริงนั่นเอง
โดยหลักการที่ Why-Why Analysis จะใช้ร่วมกับหลักการ 5 Gen นั้น จะมีดังต่อไปนี้
1. ใส่สิ่งที่บ่งบอกถึงสถานการณ์ไว้เพียงเรื่องเดียว
2. สร้างคำถามว่า “ทำไม” กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ตรงตามหลักการ และกฎเกณฑ์
3. คำถามว่า “ทำไม” ต้องมีความสัมพันธ์กับเหตุผล
4. ค่อย ๆ ตั้งคำถาม “ทำไม” ในแต่ละเรื่องหลังจากนี้
5. สร้างคำถามให้ตรงตามเป้าหมายของการวิเคราะห์
6. ให้สามารถอ่านแล้วเข้าใจได้ง่าย
7. ใช้คำศัพท์ที่ชัดเจน
8. อย่าใช้ความรู้สึกในการตั้งคำถาม
9. ทวนคำถามอีกครั้งเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นในคำตอบ
10. พิสูจน์ปัญหาเหล่านั้นด้วยการลงพื้นที่จริง
ดังนั้นแล้ว Why-Why Analysis จึงเป็นการวิเคราะห์ที่มีหลักเหตุและผล รวมถึงยังทำให้เราสามารถมองเห้นปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน ซึ่งเกิดมากจากการเริ่มตั้งคำถามว่า “ทำไม” เป็นจุดเริ่มต้น ซึ่งจะช่วยทำให้เริ่มค่อย ๆ เข้าใกล้ถึงปัญหาได้มากขึ้นจนสามารถจัดการกับปัญหาได้อย่างรวดเร็ว นั่นจึงทำให้ Why-Why Analysis เป็นการวิเคราะห์ที่เป็นที่นิยมในทุก ๆ องค์กรในปัจจุบันนั่นเอง
มาทำความรู้จัก Why Why Analysis กันเถอะ
ในการที่เราจะทำงานอะไรบางอย่างให้สำเร็จลุล่วง ขั้นตอนที่เราจะต้องช่วยกันคิดและเป็นขั้นตอนที่สำคัญอย่างยิ่ง นั่นก็คือ ขั้นตอนการวิเคราะห์ปัญหา เพราะขั้นตอนดังกล่าวนี้เป็นขั้นตอนที่จะช่วยให้เราสามารถค้นหาถึงปัญหาที่เราประสบพบเจออยู่ในองค์กรของเราได้ ซึ่งการวิเคราะห์ปัญหาในปัจจุบันนั้นก็มีอยู่หลายประเภทด้วยกัน และหนึ่งในการวิเคราะห์ที่เป็นที่รู้จักและนิยมอย่างมากก็คือ Why-Why Analysis
safety jogger รองเท้าเซฟตี้ jogger
safety jogger รองเท้าเซฟตี้ jogger ช่วยลดความเสี่ยงกับการที่คุณเดินทางไปสั่งอุปกรณ์เซฟตี้ระยองแต่ร้านปิด ด้วยขั้นตอนการสั่งสินค้าแบบออนไลน์ที่การันตีคุณภาพสินค้าว่ามีความสดใหม่ ไม่ต่างจากการสั่งและรอรับที่หน้าร้าน ใครกำลังมองหาอุปกรณ์เซฟตี้ระยองไม่ควรพลาดจริงๆ ค่ะ
รองเท้าเซฟตี้แบบที่โดนใจ
E. รองเท้าเซฟตี้
Amazing น้ำหนักเบาที่สุด รองเท้าหัวเหล็กพื้นเสริมสแตนเลส หุ้มข้อ ทรง Sport รุ่น Super Safety
E. รองเท้าเซฟตี้
E. รองเท้าเซฟตี้
I. หมวกเซฟตี้ / หมวกนิรภัย
หมวกเซฟตี้นิรภัยปีกรอบสีส้ม สำหรับวิศวกรรม ช่างไฟฟ้า งานหนัก กันไฟฟ้าได้ 20,000V มาตรฐาน ANSI (USA)
E. รองเท้าเซฟตี้
E. รองเท้าเซฟตี้
Super Boots รองเท้าบู๊ทหัวเหล็ก (สีดำ / สีขาว) หัวเหล็ก อย่างดี
E. รองเท้าเซฟตี้
E. รองเท้าเซฟตี้
E. รองเท้าเซฟตี้
Best Leather Boots Safety รองเท้าบูทเซฟตี้หัวเหล็ก พื้นเหล็ก มาตรฐาน S3 มาตรฐานสูงสุด
E. รองเท้าเซฟตี้
E. รองเท้าเซฟตี้
E. รองเท้าเซฟตี้
E. รองเท้าเซฟตี้
E. รองเท้าเซฟตี้
E. รองเท้าเซฟตี้
E. รองเท้าเซฟตี้
E. รองเท้าเซฟตี้
รองเท้าเซฟตี้แบบเปิดส้น รุ่น Visitor (งานสั่งผลิต ต้องรอสินค้า)
E. รองเท้าเซฟตี้
High Voltage Safety Shoe รองเท้ากันเซฟตี้ไฟฟ้าแรงสูง 18,000 V
E. รองเท้าเซฟตี้
E. รองเท้าเซฟตี้
E. รองเท้าเซฟตี้
E. รองเท้าเซฟตี้
E. รองเท้าเซฟตี้
E. รองเท้าเซฟตี้
BEST รองเท้าเซฟตี้หัวเหล็ก ทนทาน เบา รุ่น Thunder จากสิงค์โปร์
E. รองเท้าเซฟตี้
E. รองเท้าเซฟตี้
Z.9.4 รองเท้าผ้าใบ รองเท้ายาง
E. รองเท้าเซฟตี้
E. รองเท้าเซฟตี้
E. รองเท้าเซฟตี้
+รองเท้ากันไฟฟ้า 18,000 V, กันกรดแก่ ด่างแก่, กันความร้อน 300C
E. รองเท้าเซฟตี้
E. รองเท้าเซฟตี้
หมวดหมู่สินค้าต่างๆ
safety jogger รองเท้าเซฟตี้ jogger
safety jogger รองเท้าเซฟตี้ jogger
ติดต่อ ทีมเซฟตี้เซลส์
Tel : 02-721-6923 Mail : teamsafetysales@gmail.com Line :@aro1988r
safety jogger รองเท้าเซฟตี้ jogger
ขอแนะนำรุ่นขายดี ใช้งานได้ดีมากๆ และสินค้ามีพร้อมส่งมอบได้ทันที !! ติดต่อทีมขายได้ 24 ชั่วโมง ส่งมอบได้เลย
รองเท้าเซฟตี้พื้น TPU ทนทาน อย่างดี รุ่น Pro หัวเหล็ก พืนเสริมสแตนเลส
รุ่น : H01 Galaxy Pro ยี่ห้อ : Best Safe
รองเท้าเซฟตี้หุ้มข้อสีน้ำตาลหัว Composite พื้น Kevlar กันทะลุ น้ำหนักเบา กันไฟฟ้า 18 KV
รุ่น : Colossus ยี่ห้อ : Best Safe
รองเท้าเซฟตี้กันความเย็น กันความร้อน กันสารเคมี ทำงานหนักได้ (ขาว/ดำ)
รุ่น : PVC Boots ยี่ห้อ : Best safe
- มาตรฐาน CE.ISO 20345 : 2011
- กันความร้อน ความเย็น
- พื้นกันลื่น กันน้ำมัน ใช้ความเย็นได้ดี
- พื้นเสริมแผ่นสแตนเลส กันทะลุ
- หนังกันน้ำ
- กันไฟฟ้าสถิตย์
- สีขาวและดำ
- Size : 40-44
น้ำหนักเบาที่สุด รองเท้าหัวเหล็กพื้นเสริมสแตนเลส ทรง Sport รุ่น Super Safety
รุ่น : supersafety ยี่ห้อ : supersafety
- มาตรฐาน CE.ISO 20345 : 2011
- ผลิตจากหนัง หนา 2.0-2.2 mm
- น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย
- พื้น PU 2 ชั้น กันน้ำมัน กันสารเคมีได้ดี
- พื้นเสริมสแตนเลสกันทะลุ
- หัวเหล็กใหญ่ ไม่บีบเท้า
- กันไฟฟ้าสถิตย์
- Size : 36-45